ทีมพลังหนุ่ม

ออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ดูบอลแบบเน้นเอามันส์ ไม่ค่อยสนใจจะวิเคราะห์เจาะลึกแทคติค รูปเกมเหมือนพวกเซียนเขาทำกันเลย อาจจะเขียนเรื่องสไตล์นี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอเห็นทีมชุดที่ “ป๋าเฟอร์กี้” เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งลงไปเซิ้งแข้งกับ ดินาโม บูคาเรสต์ ทีมแกร่งจากโรมาเนีย ในแมทช์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก แล้วอดจะเขียนถึงไม่ได้
อย่างที่จั่วหัวไว้น่ะล่ะ ทีมชุดนี้เป็นทีมพลังหนุ่มจริงๆ เรียกว่าเบ็คแก้ว “แม่ยกประจำเว็บ” เห็นแล้วน้ำลายไหลแล้วไหลอีก เพราะมีแต่เด็กเอ๊าะลงสนามทั้งนั้น แต่เสียใจด้วยนะน้องแก้วเพราะเกมนี้พี่แกรี่ แกลงมากั๊กเรียบร้อย แถมสวมปลอกแขนกัปตันทีมในฐานะผู้เล่นที่แก่ที่สุดในสนาม เล่นเอาดาวเตะรุ่นน้องตั้งหน้าตั้งตาทำเกมรุกกันยกใหญ่ เพราะเกรงใจที่พี่แกจ้องแบบมีเลศนัยมาจาก “ด้านหลัง”
วันนี้ป๋าใช้แผนโปรด 4 – 5 – 1 (คงเพราะขาดทรัพยากรกองหน้าด้วย) >> ทีโฮ กับตำแหน่งปราการด่านสุดท้ายข้างหลัง แบ็คโฟร์ : พี่แกรี่ โอเชีย ซิลแวสตร์ และก็น้องหนูสเปคเตอร์ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย ส่วนแผงกลางห้าคนประกอบด้วยเฟล็ทเชอร์ ยืนเป็นปีกขวา น้องโด้เป็นปีกซ้าย เฌมบ้า ปักหลักคอยตัดเกมคู่กับคเลแบร์สัน ที่หายหน้าหายตาไปนาน และสุดท้ายก็เป็น “จอมยุทธ์อินทรี” คริส อีเกิ้ลส์ ที่สวมตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกแทนสโคลส์ ส่วนศูนย์หน้าก็เป็น อลัน สมิธ เจ้าเก่า
แฟนบอลวันนี้ก็ไม่มากไม่น้อยแค่ 68,000 คนเท่านั้นเอง ยังเหลือที่ว่างอีกตั้ง 7,000 ที่นั่งจากความจุ 75,000 ที่นั่ง ของโรงละครแห่งความฝัน คาดเดาเอาว่าแฟนบอลของทีมคู่แข่งคงไม่อยากเสียตังค์ขึ้นเครื่องบินมาดูทีมรักโดนชำเราตกรอบซักเท่าไหร่ ผิดกับชาวผีแดงที่เตรียมฉลองกันเต็มสูบทั้งที่ โอล์ด แทร็ฟฟอร์ด และก็หน้าจอทีวีเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะ
รูปเกมครึ่งแรกค่อนข้างจะสูสี แต่เป็นแก็งค์ผีเด็กที่ดาหน้าบุกเป็นระลอกแต่ยังไม่ได้ประตูเพราะถูกกองหลังทีมเยือนดักล้ำหน้าก็บ่อย ดักบอลได้ก็เยอะ ยังไงก็ต้องชมแผงกลางของเราโดยเฉพาะเฌม บ้ากับเคลบ ที่หยุดเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้ดีทีเดียว ทำเอาโฮเวิร์ด ว่างจนเรียกว่าเอาเวลามาเปิดเว็บ Redarmyfc.com ได้เลย
จุดที่ผมชอบใจมากที่สุดของทีมชุดนี้คือผู้เล่นทุกคนให้บอลง่ายแล้วก็วิ่งสับตำแหน่งกันตลอด ไม่มีฝืนเลี้ยงตะบี้ตะบันจนเสียบอลทั้งๆ ที่เป็นจังหวะจ่าย จะมีก็แต่น้องโด้นี่ล่ะที่ครองบอลมากหน่อยและก็สับจนกองหลังบูคาเรสต์ขาดแล้วขาดอีก น่าเสียดายที่จังหวะทำประตูมันไม่ค่อยเป็นใจซักที ต้องยอมรับว่ากองหลังกับผู้รักษาประตูเขาค่อนข้างเหนียวแน่น แต่ยังไงเห็นเด็กผีทำเกมบุกเพลินๆ อย่างนี้ถึงไม่ได้ประตูผมก็ไม่ถือสา (ก็ประตูทีมเยือนนำอยู่นี่)
ในที่สุดแผงหลังของทีมเยือนก็ทนการบุกของผู้เล่นแมนฯ ยูฯ ชุดขวัญใจแม่ยกไม่ไหว ประตูแรกของปีศาจแดง เกิดขึ้นเพียงนาทีที่สองของครึ่งหลังจากลูกเตะมุม หรือจังหวะฟาวล์ซักอย่างนึงเนี่ย บอลลอยเข้ากลางแถวๆ จุดโทษให้ มิคกี้ ซิลแวสตร์ ขึ้นโหม่ง แต่ถูกกองหลังสกัดมาเข้าทาง “นิว สปาร์กี้” ที่ส่งบอลเข้าประตูง่ายๆ จังหวะนี้เราก็ได้เห็นสมิธทำหน้าเอ๋อเล็กๆ เมื่อถูกไลน์แมนยกธงล้ำหน้าปฏิเสธลูกยิงของเขา สุดท้ายมาร์คุส มักซ์ ผู้ตัดสินเข้าไปทำความเข้าใจ “กองหลังส่งให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามมันจะล้ำหน้าได้ไง” และก็เป่าให้เป็นลูกที่ได้ประตูทำเอาสมิธค่อยยิ้มออกหน่อย
อีกสองนาทีต่อมาสมัดเจอร์ ก็ทำประตูที่สองของเกมได้ เริ่มจากเฟล็ทเชอร์ ปาดบอลให้อีเกิ้ลส์ ส่งต่อให้พี่แกรี่ ที่เติมเกมมาถึงมุมเขตโทษก่อนจะทิ่มบอลเข้ากลางมาถึงเสาสอง และจบด้วยสมิธเข้าชาร์จง่ายๆ เป็นประตูที่เรียกว่าทีมเวิร์คล้วนๆ เห็นแล้วมันปลื้มครับ
ยังไงก็เถอะดูป๋าเฟอร์กี้จะใจร้ายไปหน่อยในสายตาของผม เล่นเปลี่ยนเอา ดาบิด เบลลิยอง ที่วันนี้หัวล้านเลี่ยนเป็นพิเศษลงมาแทนสมิธ ในช่วงนาทีที่หกสิบกว่าๆ ทำเอาโอกาสลุ้นแฮตทริกของสมัดเจอร์ หมดไปเลย ทำเอาผมเซ็งเล็กๆ แต่เบลลิยอง ก็ไม่ทำให้ป๋าผิดหวังด้วยการสังหารลูก 3 – 0 แบบนิ่มๆ ในนาทีที่ 69 (ผมล่ะชอบเลขนี้จริงๆ)
พูดถึงเบลลิยอง แล้วผมเชื่อแล้วล่ะว่าหมอนี่ฝี teen ติดจรวดตามคำล่ำลือ มีอยู่จังหวะนึงช่วงเกือบท้ายเกม คเลแบร์สัน สเปคเตอร์ และก็ริชาร์ดสัน ที่ลงมาแทนโรนัลโด้ กำลังรุมกินโต๊ะผู้เล่นบูคาเรสต์ อยู่ จนต้องคลายบอลกลับหลังก็มีน้องเบลล์ นี่ล่ะพุ่งมาตัดบอลจากไหนก็ไม่รู้ แต่บอลมันเด้งทำท่าจะออกข้าง ใครจะคิดล่ะครับว่าเจ้าน้องเบลล์ จะสปีดไปตามบอลทันแล้วก็เลี้ยงสวนทำเกมรุกทันที จังหวะนั้นถึงกับอ้าปากค้างตะลึงกับความเร็วของหมอนี่เลย นี่ถ้าเทคนิคกับความเก๋ามากกว่านี้นะ …..เจ๋ง!!!
ช่วงเวลาที่เหลือคงจะไม่ต้องบรรยายอะไรมากมายเพราะแก็งค์ผีเด็ก (ล้วนๆ) ของเราเล่นกันแบบสบายๆ เคาะไปเคาะมาจนหมดเวลาซึ่งเป็นช่วงที่เบ็คแก้ว และเนวิลล์ ผู้พี่รอมานาน คือตอนที่นักเตะวัยเอ๊าะของเราถอดเสื้อแลกกับคู่แข่ง บังเอิญเหลือเกินที่กล้องจับไปที่เจ้าหนูสเปคเตอร์ ที่อวดเนื้อเนียนๆ ….. เฮ้ย!! หมอนี่มีหัวนมซ้ายสองอันนี่หว่า!! ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ไปหาภาพดูเอาเองนะ
ทีมชุดนี้ของเฟอร์กี้ ผมถือว่าสอบผ่านนะ ถึงคู่แข่งจะมาแบบไม่หวังชัยชนะ แต่ยังไงพวกเขาก็เป็นถึงโค – ตะ – ระ ทีมจากโรมาเนีย เชียวนะ ความสำเร็จและอนาคตที่สดใสมันช่างหอมหวาน แต่จังหวะนี้ผมหอมไม่ออกเพราะเหลือบไปเห็นกองทุ่นระเบิดที่เจ้าลูกครึ่งเทอร์เรีย – พุดเดิ้ลตัวเมียวัย 2 เดือนปล่อยไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มิน่าล่ะกลิ่นอะไรฉุนๆ ตลอดเกมที่แท้ผมก็นั่งดมกองขี้หมามาตั้ง 2 ชั่วโมง ….. สุดยอดจริงๆ จังหวะนี้ต้องขอตัวไปกำจัดวัตถุมีพิษก่อนล่ะครับ >>> หนึ่งจอกให้ความสำเร็จของแก็งค์ผีเด็ก!!
Baki

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Max